วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฝรั่งกิมจู

ที่ฟาร์มอุสาห์ USA Farm ...พืชหลักที่ปลูกคือมะนาว มีทั้งที่ปลูกลงดินเพื่อตอนกิ่งพันธุ์จำหน่ายให้กับผู้สนใจ...นำไปปลูกเพื่อการค้าหรือปลูกลงกระถางเพื่อเอาไว้รับประทานเอง เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในยามที่มะนาวมีราคาแพง และที่ปลูกไว้ในวงบ่อซีเมนต์เพื่อทำผลผลิตขายในช่วงที่มะนาวมีราคาแพง...
ที่ฟาร์มอุสาห์ USA Farm...ที่มะนาวหลายพันธุ์ เช่น
- มะนาวตาฮิติ มะนาวไร้เมล็ดจากเกาะตาฮิติ ผลใหญ่ ลูกดก ต้านทานโรคแคงเกอร์ได้ดีมาก เหมาะสำหรับปลูกลงกระถางไว้ทานเอง ไม่ต้องดูแลมาก
- มะนาวแคลิฟอร์เนีย มะนาวไร้เมล็ดจากแคลิฟอร์เนีย
- มะนาวทูลเกล้า พิจิตร มะนาวไร้เมล็ด
- มะนาวแป้นแพรวา มะนาวมีเมล็ดพันธุ์ใหม่ ซึ่งได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ มีเปลือกบาง น้ำเยอะ ต้านทานโรคได้ดีมาก และที่สำคัญต้นทรงพุ่มเตี้ยเหมาะสำหรับปลูกลงกระถางไว้ทานเอง ไม่ต้องดูแลมาก
- มะนาวแป้นพิจิตร1
- มะนาวแป้นวโรชา
- มะนาวแป้นวิเศษวโรชา
เนื่องจากเราต้องการบริการจัดการพื้นที่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ระหว่างวงบ่อมะนาว ทางสวนอุสาห์จึงได้ทำการปลูกฝรั่งถึง 3 สายพันธุ์ ด้วยกันมี
- ฝรั่งกิมจู
- ฝรั่งแป้นสีทอง
- ฝรั่งหวานพิรุณ
เนื่องจากเจ้าของฟาร์มอุสาห์ชอบทานฝรั่งมาก...จึงทำตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ว่า..."ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก "

วันนี้เรามาพูดถึง...ฝรั่งกิมจูกันดีกว่า...

การปลูกฝรั่งกิมจู @ USA Farm ฟาร์มอุสาห์
อย่างที่บอกเราเลือกพื้นที่ปลูกฝรั่งกิมจูคือ ระหว่างวงบ่อมะนาว ซึ่งวงบ่อมะนาวที่สวนใช้ระยะ 3 x 3 เมตร ซึ่งถ้าต้องการจะปลูกเป็นสวนก็ควรจะจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3 x 3 เมตรในเนื้อที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 160 ต้น
การเตรียมดิน
การปลูกฝรั่งกิมจู ในพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมถึงควรทำการยกร่องปลูก โดยยกร่องให้มีขนาดความกว้างของหลังร่องประมาณ 6 เมตร มีคูน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวของสันร่องแล้วแต่พื้นที่ ความสูงไม่จำกัด แต่ถ้าเป็นที่ดอนไม่จำเป็นต้องยกร่อง
ที่ USA Farm ฟาร์มอุสาห์...เนื่องจากดินที่ปลูกเราขุดขึ้นมาจากบ่อ (เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง) สภาพดินเป็นดินเหนียว เราจึงทำการปรับปรุงดินโดยขุดหลุมการตาก...ดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค และเมล็ดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่า ๆ กัน อัตราปุ๋ย 1 ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย
วิธีปลูก
หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่งจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้
การเตรียมหลุมปลูก
    ขนาดของหลุมปลูกควรกว้าง 0.5 เมตร ยาว 0.5 เมตร และลึก 0.5 เมตร ที่จำเป็นต้องขุดหลุมกว้างเพื่อเปลี่ยนสภาพดินในหลุมให้ดีขึ้น ดังนี้
    1. ควรขุดดินโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ดินบนและดินล่าง
    - ดินบน เป็นส่วนที่มีอินทรีย์วัตถุมากอยู่แล้ว ให้แยกไว้ส่วนหนึ่ง
    - ดินล่าง คือดินที่เมื่อขุดลึกลงไปแล้วพบว่าดินมีสีจางลงเป็นชั้นที่ไม่มีอินทรีย์วัตถุ
    2. ตากดินไว้ 10-15 วัน เพื่อให้แสงแดดส่องฆ่าเชื้อโรคในหลุมปลูกและในดิน
    3. กลบดินบนลงในหลุม
    4. ผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วนต่อดินล่าง 2 ส่วน และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยร๊อคฟอสเฟต 0.50 กิโลกรัม แล้วจึงกลบลงไปในหลุมทับชั้นดินบน จนมีระดับสูงกว่าระดับพื้นดินธรรมดาประมาณ 10 เซนติเมตร
    การที่ต้องกลบดินให้สูงกว่าระดับดินเดิมนั้น เพื่อที่เมื่อเวลาปลูกแล้วดินจะยุบตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้พอดีกับระดับดินเดิม ถ้าไม่เผื่อไว้จะเป็นแอ่งและมีน้ำขังทำให้รากเน่าตายได้
การปฏิบัติดูแลรักษา
    การให้น้ำ
    หลังจากปลูกฝรั่งแล้วต้องหมั่นคอยรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง การให้น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก และขนาดของผล
    การใส่ปุ๋ย
    โดยปกติการปลูกพืชทุกชนิดควรมีการใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตรที่แนะนำ คือ 15-15-15 หรือ 13-13-21 ฝรั่งเมื่อออกดอกแล้วจำเป็นต้องให้น้ำและปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นทุก ๆ ปี ควรให้ปุ๋ยประมาณ 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นและปริมาณผลผลิต และหากจะให้ฝรั่งมีรสหวานยิ่งขึ้นให้ใช้ปุ๋ยเกร็ดสูตร 5-30-30 พ่นก่อนเก็บผล 1 เดือน โดยนำปุ๋ยเกร็ดมาผสมน้ำฉีดพ่น ฉีดอาทิตย์ละครั้ง ประมาณ 2 ครั้ง จากนั้นประมาณ 15 วัน จึงเก็บผล
    การพรวนดิน
    ไม่ควรพรวนดินลึก เพราะจะทำให้รากของต้นฝรั่งขาดได้
    การกำจัดวัชพืช
    ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้วิธีการถาง หรือปลูกพืชตระกูลถั่ว เป็นพืชคลุมดิน
    การปักไม้ค้ำกันลม
    ในระหว่างที่ต้นฝรั่งยังเล็กอยู่ ควรปักไม้ค้ำกันลมเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นโยก เพราะอาจกระทบกระเทือน ทำให้ต้นฝรั่งไม่โต การปักไม้ค้ำกันลม ควรใช้ไม้รวกหรือแขนงไม้ไผ่ยาว 1 เมตร ค้ากิ่งต้นละ 1-2 อัน และใช้เชือกพลาสติกผูกติดกับกิ่งแต่อย่าผูกให้แน่นมากเพราะกิ่งอาจเจริญเติบโตช้า
    การพยุงผลฝรั่ง
    ฝรั่งจะเริ่มออกผลเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน ควรใช้ไม้ไผ่ปักไว้เพื่อพยุงผลฝรั่ง โดยใช้ปลายหรือแขนงไม้ไผ่ขนาดเล็กยาว 1 เมตร หรือมากกว่านั้นปักใกล้กับกิ่งที่ออกผลแล้ว โดยผูกยึดกับกิ่งไว้ บางสวนจะผูกขั้วผลกับกิ่งหรือไม้ปักเพื่อไม่ให้ผลถ่วงต้น เพราะน้ำหนักผลฝรั่งมาก ถ้ามีลมพัดแรงต้นจะเฉาตายและรากจะขาด
    การตัดแต่งกิ่ง
    การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้ฝรั่งเกิดกิ่งอ่อน และมีช่อดอกออกมาด้วยทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ได้สัดส่วน อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่อง ได้ทั่วถึง สะดวกในการเก็บผลและการพ่นสารป้องกันกำจัดโรค และแมลง นอกจากนี้ ยังทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นนอน ผลมีขนาดใหญ่ สำหรับส่วนใหม่ ควรมีการตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อกระตุ้นการเจริญ และการสร้างตาดอก โดยทั่วไป ต้นที่สมบรูณ์จะตัดกิ่งก้านออก 25 - 30% สำหรับต้นที่ไม่แข็งแรงให้ตัดกิ่งก้านออกประมาณ 20 % นอกจากการตัดแต่งกิ่งแล้วการทำให้ใบร่วงจะทำให้ระยะการเก็บเกี่ยวสั้นลง และการปลิดผลทิ้งให้เหลือประมาณ 2 - 6 ผล ต่อกิ่ง จะจำเป็นในสวนที่ผลิต เพื่อบริโภคผลสด แต่ถ้าจะให้ได้ผล ที่มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดี ควรให้เหลือเพียง 1 ผล เท่านั้น
การห่อผล
ประโยชน์ของการห่อผลนอกจากจะช่วยป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูฝรั่งแล้ว ยังทำให้ผลฝรั่งมีผิวสวยน่ารับประทาน  วิธีการห่อผลฝรั่งกิมจูให้ได้ผลใหญ่-น้ำหนักดี-ผิวสวย แมลงไม่รบกวน ทำได้ดังนี้
- ต้นฝรั่งที่โตเต็มที่ (ประมาณ 10- 12 เดือน) ก็จะเริ่มให้ดอกออกผล เมื่อผลฝรั่งอายุได้ 2 เดือน ควรห่อผลด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษหน้าเหลือง แล้วหุ้มด้วยพลาสติกอีก 1 ชั้น เพื่อป้องกันแมลงเข้ารบกวน โดยก่อนห่อฝรั่งทางสวนจะฉีดน้ำส้มควันไม้หรือจุลินทรีย์เพื่อป้องกันแมลงเข้ารบกวน การห่อจะทำให้ได้ผิวสวย และ รสชาติดีขึ้น
โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าลูกมะนาวหรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน
ส่วนเทคนิคที่สำคัญในการผลิตฝรั่งพันธุ์กิมจูให้ได้ผลใหญ่ น้ำหนักดี นั้น...
ที่ USA Farm ฟาร์มอุสาห์...จะเด็ดกลีบเลี้ยงออกให้หมด...เพื่อป้องกันผลฝรั่งเน่า และข้อดีคือจะช่วยให้ผลฝรั่งโตได้อย่างเต็มที่ เมื่อครบเวลาเก็บเกี่ยว (2 เดือนหลังจากห่อผล) ผลฝรั่งที่ได้จะลูกใหญ่ ผิวเกลี้ยง ปราศจากโรคและแมลง ขายได้ราคาดี
โรคที่สำคัญของฝรั่ง
    1. โรคจุดสนิม เกิดจากเชื้อราเข้าทำลายใบ โดยจะเห็นจุดขนาดเล็ก เริ่มจากจุดสีเขียวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีสนิมเหล็กและเป็นขุยคล้ายกำมะหยี่ ถ้าเป็นที่กิ่งจะทำให้เป็นขุยและกิ่งแตกแห้งตาย
    การป้องกัน ที่ USA Farm ฟาร์มอุสาห์...ป้องกันกำจัดเชื้อรา โดยฉีดน้ำส้มควันไม้หรือจุลินทรีย์ป้องกันกำจัดเชื้อรา
    2. โรคแอนแทรคโนส เกิดจากเชื้อราเข้าทำลายผลอ่อน ผลสุกและใบ อาการบนใบจะเห็นเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ แผลอาจทะลุ ถ้าเป็นที่ผลอ่อนจะทำให้มีสีน้ำตาลและเน่าแห้งไปในที่สุด แต่ถ้าเป็นระยะผลสุกหรือใกล้สุก จะเกิดแผลเน่าสีน้ำตาล อาการจะลุกลาม แผลจะบุ๋มลงเล็กน้อยมีจ้ำสีคล้ำและเมือกสีแสดปรากฏให้เห็น
        การป้องกัน ที่ USA Farm ฟาร์มอุสาห์...ป้องกันกำจัดเชื้อรา โดยฉีดน้ำส้มควันไม้หรือจุลินทรีย์ป้องกันกำจัดเชื้อรา
แมลงศัตรูฝรั่ง
    1. แมลงวันทอง การทำลายเกิดจากแมลงวันทองวางไข่ที่ใต้ผิวฝรั่งสุก (หรือระยะที่ผิวผิวอ่อน) ตัวอ่อนที่ฟักจากไข่จะเจริญกินเนื้อฝรั่งเป็นอาหารทำให้ฝรั่งอ่อนนิ่มและเละในที่สุด
    การป้องกัน ห่อผลในขณะที่ผิวยังแข็ง มีสีเขียว ขนาดเล็ก การห่ออาจห่อด้วยถุงพลาสติกชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น โดยต้องเจาะรูกระดาษห่อชั้นในก้นถุงให้น้ำไหลออกด้วย หรือป้องกันกำจัดเชื้อรา โดยฉีดน้ำส้มควันไม้หรือจุลินทรีย์ป้องกันกำจัดเชื้อรา
     ที่ USA Farm ฟาร์มอุสาห์...ได้ทำเครื่องดักจับแมลงวันทอง แล้วนำไปปล่อยในพื้นที่ห่างไกล เพื่อเป็นการควบคุมและกำจัดที่ต้นเหตุ
    2. เพลี้ยแป้ง จะดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบอ่อน กิ่งอ่อน และช่อดอกทำให้แห้งเฉาหรือใบผิดรูปร่างและผลผลิตลดลง
    การป้องกัน ที่ USA Farm ฟาร์มอุสาห์...ป้องกันเพลี้ย โดยฉีดน้ำส้มควันไม้หรือสมุนไพรไล่เพลี้ยแป้ง และได้ทำการตัดใบและกิ่งที่แห้งเฉานำไปเผาทำลายหรือนำไปทิ้งในพื้นที่ห่างไกล
@ USA Farm ฟาร์มอุสาห์
มีกิ่งพันธุ์ฝรั่งกิมจูจำหน่ายทั้งที่เป็นตุ้มตอนและที่เป็นถุงดำเพาะชำพร้อมปลูก
ราคาสอบถามได้ผ่าน... 
ID Line: usa-farm หรือ โทร.089-6841829 หรือที่ Email: info.USAfarm@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น